ลำปาง

วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ ลำปาง รถม้า เขลางค์นคร เป็นฉายาของลำปาง ผมจะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นในลำปางกัน แต่อาจไม่ใหม่เท่าไหร่ในตอนนี้ครับ แต่ว่าลำปางหนาวมาก (เกี่ยวกันไหมครับ) คำหลังไม่รู้ว่าเริ่มต้นมาอย่างไรแต่เท่าที่ผมเห็นบ่อยมากคือตามรายการข่าวตอนเช้าด้านล่างจะมี sms คำว่าลำปางหนาวมาก เลยเป็นคำที่ฮิต ติดลมบนครับ วันนี้หากท่าเดินทางมาจากเส้นทางกรุงเทพมหานครขึ้นเหนือ ถ้าหากวางแผนดีๆนะครับ อาจเที่ยวได้หลายจังหวัดเลยครับ ทางเขตใกล้ๆกรุงเทพอาจไม่ขอกล่าวถึงครับ

เที่ยวลำปาง

เริ่มตั้งแต่การออกเดินทางตั้งแต่เช้าตรู่ มาทางถนนสายเอเซียผ่านนครสวรรค์ พิจิตร แวะเข้าพิษณุโลกไหว้หลวงพ่อใหญ่ เอาฤกษ์เอาชัยกันก่อน (หลวงพ่อพุทธชินราช) พระคู่บ้านคู่เมืองจังหวัดพิษณุโลกแล้วมุ่งหน้าสู่ถนนสิงหวัฒน์ เข้าสุโขทัย แวะ เที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยเพื่อถ่ายรูป กับศิลปะที่งดงามมาก จากนั้นออกเดินทางกันต่อ
เพื่อไปยังจังหวัดลำปาง  ชาวลำปางส่วนใหญ่อู้กำเมือง(พูดภาษาเหนือ)เกือบทั้งหมด อีกทั้งยังเป็นแหล่งอารยธรรมล้านนาไทย ที่น่าสนใจมากครับ มีวัฒนธรรม อารยะธรรม ที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ

สัญลักษณ์ที่โดดเด่น เช่น เครื่องปั้นดินเผาจากดินขาวและถ้วยชามตราไก่ ที่เห็นกันชินตา ว่านี่คือเมืองลำปาง สำหรับประวัติของเมืองลำปาง ก็จะเล่าเพียงแค่พอสังเขปครับ เมืองลำปางเดิมชื่อ เขรางค์ เป็นเมืองหลวงคู่แฝด กับอนาจักรหริภุญไชย เพราะเจ้าเมืองผู้ครองนครเป็นโอรสฝาแฝด ของพระนางจามเทวี ลำปางมีธรรมชาติ และ ที่มีความอุดมสมบูรณ์มากมายเช่น ป่าเขา ถ้ำ น้ำตก บ่อน้ำร้อนสำหรับสถานที่ท่องเที่ยว ก็มีมากมายเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังเดี๋ยวนี้เลย

วัดพระแก้วดอนเต้า

หลังจากที่ขับรถมาจากสุโขทัย บนถนนหมายเลข11 มุ่งหน้าเข้าลำปางเจอสี่แยกเมืองลำปาง เป็นถนนคู่ขนาน ให้ตรงไปครับแล้วเลี้ยวขวา ไปตามป้ายเลยครับ ท่านจะได้พบกับวัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม เพื่อเข้าไปนมัสการ และลักษณะองพระแก้วดอนเต้า คือ จะเป็นวัดเก่าแก่มีเจดีย์องเหลืองอร่าม และเรายังชมความงดงามของปราสาท เป็นสถาปัตยกรรมแบบพม่า อิทธิพล ศิลปะอังกฤษ ตัวปราสาทซ้อนเป็นชั้น ทำจากไม้ลวดลายการแกะสลัก เป็นศิลปะแบบพม่า จากวัดพระแก้วดอนเต้า

สามารถนั่งรถม้าชมรอบๆเมืองลำปาง ซึ่งราคาก็ไม่แพง มีทั้งแบบทั้งวัน และ แบบเป็นชั่วโมง สถานที่ใกล้ๆ ในระแวกนั้น ก็จะมีตลาดรัษฎา อยู่แถวๆเชิงสะพานรัษฎา สะพานนี้ผ่านสมัยสงครามโลกมาแล้วนะครับ ของเดิมเป็นสะพานไม้แต่ชำรุด และได้มีการก่อสร้างขึ้นมาใหม่ เป็นสะพานเหล็กเสริมคอนกรีต แถวนั้นมีทั้งของกินของฝากมากมาย เช่น ขนมจีนน้ำเงี้ยว ใส้อั่ว เมี่ยงคำ ข้าวซอยและอื่นๆอีกเพียบ หลังจากนั้นเดินทางต่อไปอำเภอ  เกอะคา บนถนนพหลโยธินประมาณ26กม. แล้วท่านก็จะเจอกับ

ฟาร์มแกะฮักยู Hug You

ไม่ใกลจากพระธาตุลำปางหลวงเท่าไหร่ครับ เลยไปประมาณ6กิโลเมตร แวะถ่ายรูปให้อาหารแกะและซื้อของฝาก ของทางฟาร์มจากนั้นย้อนกลับไป เส้นพหลโยธินเพื่อไปพระธาตุลำปางหลวงกันต่อ

พระธาตุลำปางหลวง

เป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ซึ่งมนต์เสน่ห์ของพระธาตุลำปางหลวงคือ  มีความสงบร่มรื่นบวกกับศิลปะแบบพม่า แล้วเข้าไปกราบนมัสการพระธาตุกัน จากนั้นก็เดินเที่ยวรอบๆบริเวณพระธาตุ ชมวิหารหลวงทรงโถง เป็นแบบไม่มีผนัง ประดิษฐานพระเจ้าล้านทองอยู่ด้านใน เป็นพระพุทธรูปสำคัญของล้านนาในกู่ทรงปราสาท แล้วแวะชมพระธาตุหัวกลับ เงาจากกล้องรูเข็ม มีอยู่สองแห่งคือ วิหารพระพุทธบาท และวิหารพระพุทธแล้วเดินทางต่อไปทางถนนพหลโยธินเลี้ยวซ้ายไปถนน1035ตรงไปตลอดเส้นทาง

วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ 

ตอนนี้ถือได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มาแรงที่สุด ของจังหวัดลำปางในตอนนี้เลยครับ อยู่ที่บ้านทุ่งทอง ตำบลวิเชตนคร อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง ในขณะนี้เรียกได้ว่า เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ “unseen“แบบสุดๆครับ เพราะว่ายังไม่เป็นที่รู้จักของใครหลายๆคน ที่แห่งนี้มีเสน่ห์มากๆครับ เพราะเป็นวัดที่อยู่บนภูเขาสูง มีเจดีย์สีขาวและสีทอง ตั้งอยู่บนยอดเขา ยิ่งถ้าเป็นช่วงหน้าหนาวเราจะอยู่ท่ามกลางทะเลหมอก และ ขุนเขาเหมือนกับตัวเราอยู่บนสวรรค์เลยครับ และ บนยอดเขาแห่งนี้ ยังมีรอยพระพุทธบาทประดิษฐานอยู่อีกด้วย และเป็นที่เคารพบูชาของชาวบ้านอำเภอแจ้ห่มมาก ในสมัยก่อนนั้นยังไม่มีทางขึ้นยอดดอย เหล่าสาธุชนที่ต้องการเดินทางไปสักการะรอยพระพุทธบาท ต้องเดินด้วยเท้าเท่านั้นครับ เหมือนกับวัดเขาคิชกูฎ จันทบุรีช่วงสุดท้ายที่รถโฟร์วีลไปต่อไม่ได้ แบบเดียวกันเลยครับ

วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชาณุสรณ์

ต้องเดินเท้าผ่านป่าเขาหน้าผาสูงชัน เพื่อที่จะขึ้นไปสักการะบูชารอยพระพุทธบาท ต่อมา หลวงพ่อไพบูลย์ สุมังคโล(พระเทพวิสุทธิญาณ)เจ้าอาวาสวัดอนาลโยทิพยาราม ได้เดินทางมาสักการะรอยพระพุทธบาท โดยการเดินเท้า พลังศรัทธานี่จึงเป็นสาเหตุของการสร้างวัดนีขึ้น ประกอบกับเนื่องในพระราชวโรกาศ ที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชการที่4)ทรงพระราชสมภพครบ200ปีพอดี จึงเป็นที่มาของการสร้างวัดแห่งนี้ขึ้น ภายในบริเวณวัดหลักๆ ก็จะแบ่งเป็นสามชั้นในส่วนของชั้นแรก ก็จะเป็นที่ตั้งของวัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ แต่เดิมเลยชื่อว่า”วัดพระพุทธบาทปู่ผาแดง“หรือชาวบ้านแถวนั้นเรียกว่า“วัดล่าง”

เป็นที่ตั้งของอุโบสถ และ เจดีย์ และเราก็เข้าไปกราบพระนิรันตราย ถือว่าเป็นพระพุทธรูปประจำพระองค์ ของพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระอุโบสถรูปทรงเหมือนกับทางล้านนาไม่มีผิดเพี้ยน คือ มีหลังลดหลั่นสองชั้น และมีรูปปั้นสิงห์คู่ยืนเฝ้าทางเข้าลานพระอุโบสถ หลังจากกราบพระกันแล้ว

ถ้าหากต้องการไปต่อในชั้นที่สองก็จอดรถไว้ในลานวัดนั่นแหละครับ เพราะทางที่เราจะไปชันมากครับ ต้องเป็นรถกระบะโฟร์วีลตัวแรงเท่านั้นครับ สำหรับตัวผมแนะนำให้ขึ้นรถโฟร์วีลโดยสารดีกว่า เพราะเราไม่ชำนาญอาจเกิดอันตรายได้ขึ้นไปอีกประมาณสามกิโลเมตร ระหว่างทางวิวของป่าเขาสวยงามมาก และก็จะถึง”ภูผาหมอก”หรือที่ชาวบ้านแถวนั้น เรียกว่า ดอยจิหมอก แล้วต้องเดินเท้าไปอีกประมาณ300เมตร ที่นี่เหลาะครับเป็นที่ประดิษฐานของรอยพระพุทธบาท หลังจากที่กราบรอยพระพุทธบาทแล้ว ก็เดินเท้าลัดเลอะไปตามภูเขาประมาณ1กิโลแม้ว(สำหรับเราก็เหมือนเดินข้ามเขาสิบลูก)ไปกันต่อที่ชั้นที่สามที่เรียกว่า”ดอยพระบาท“มีบันไดเหล็กให้เดินครับ ระหว่างทางก็จะมีจุดชมวิวให้ถ่ายรูปด้วย  ตอนนี้เอาแค่พอหอมปากหอมคอ เดี๋ยวรอบหน้าจะพาไปที่อื่นของลำปาง หรืออาจขึ้นเหนือสุดไปเชียงรายเที่ยว”วัดร่องขุ่นต่อก็ได้ครับ
ชอบกดไลค์ ใช่กดแชร์นะจ๊ะ