ต้มยำปลานิล จัดจ้านสะใจ

ต้มยำปลานิล จัดจ้านสะใจ น้ำใส แต่จัดจ้านสะใจ มีวิธีทำง่ายไม่ยุ่งยากมากมาย วันนี้มาแจกสูตรและเคล็ดลับการทำอย่างไรไม่ให้คาว จะบอกว่ามีมาแต่โบราณก็ไม่ได้ เพราะว่าปลานิลมาตอนปี 2508 โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตราธิเบศรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามมินทราธิราช บรมนาถบพิตร ในรัชการที่ 9

ต้มยำปลานิล

ได้รับการนำมาถวายของจักรพรรดิญี่ปุ่น และแพร่พันธุ์มากมายในบ้านเมืองของเรา เป็นสัตว์เศรฐกิจที่สำคัญ และมีรสชาติดีอีกด้วย และเราทุกคนควรจดจำพระมหากรุณาธิคุณไว้ด้วย เราก็มาเริ่มกันเลยครับ มาเริ่มที่ส่วนผสม และเครื่องปรุงกันก่อนเลย

เครื่องปรุง

1.ปลานิล                 1  ตัว
2.ตะไคร้                  2  ต้น
3.หอมแดง              3   หัว
4.มะเขือเทศ           2   ลูก
5.ข่าหั่น                  5  แว่น
6.ใบมะกรูด              5   ใบ
7.มะนาว                   1  ลูก
8.มะขามเปียก          3  ฝัก
9.น้ำปลา           1 ช้อนโต๊ะ
10.ผงปรุงรส        1  ช้อนชา
11.พริกขี้หนู               6 เม็ด
12.หอมผักชี                3 ต้น

ต้มยำปลานิล วิธีทำ

1.เริ่มต้นด้วยการทำปลานิล โดยการขอดเกล็ดออก แล้วเอาใส้ล้างให้สะอาด ด้วยน้ำเกลือเพื่อลดเมือกและกลิ่นคาว ง่ายๆก็คือล้างน้ำเกลือก่อนหั่น จากนั้นก็หั่นเป็นชิ้นตามสมควร

ต้มยำปลานิล

2.ต้มน้ำ แล้วใส่ หั่นตะไคร้ หอมแดงทุบ ข่าหั่น ใบมะกรูด มะขามเปียก ผงปรุงรส พริกขี้หนูบด แล้วรอจนกระทั่งน้ำเดือดเต็มที่

ต้มยำปลานิล

3.เมื่อน้ำเดือดเต็มที่แล้ว ให้นำปลาใส่ลงไป ไม่ต้องคนเพราะจะทำให้มีกลิ่นคาว จากนั้นก็ทิ้งไว้ให้เดือดอีกครั้ง แล้วใส่มะเขือเทศลงไป ตามด้วย น้ำปลา มะนาว ปล่อยให้เดือดอีกครั้งแล้วใส่ หอม ผักชี ชิมรสแล้วตามต้องการ

ปลานิลต้มยำ

ถ้าเป็นไปได้ จากพริกขี้หนูสดเปลี่ยนเป็น พริกแห้งย่างไฟ และผักชีใบเลื่อยจะครบสูตรการ ต้มยำปลานิล ที่สมบูรณ์แบบ แล้วตักเสริฟแบบร้อนๆ รับรองว่าสุดยอดเมนูพื้นบ้านไทยครับ
ต่อไปก็สูตร ยำหอยแครง คลิ๊กดูเลย
ประวัติความเป็นมาของปลานิล คลิ๊กดู

ขอบสำหรับการเข้ามา หากเป็นไปได้ช่วยกดไลค์ กดแชร์เป็นกำลังใจด้วยน้า